หอยกะพัง! นักกินตะกอนและผู้เชี่ยวชาญในการกรองน้ำ
หอยกะพัง (Scallop) เป็นสัตว์ Bivalvia ที่พบได้ทั่วไปในมหาสมุทร และเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องความเร็วในการว่ายน้ำ, เปลือกสวยงาม และเนื้อหาอุดมด้วยโปรตีน
หอยกะพังอาศัยอยู่ในน่านน้ำชายฝั่งและพื้นทะเลลึก ซึ่งขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ มีความหลากหลายของขนาดและสีสัน โดยทั่วไปแล้ว หอยกะพังจะมีเปลือกที่แข็งแรงรูปโค้งกลม ปิดทับด้วย “กล้ามเนื้ออductor” ซึ่งมีหน้าที่ในการเปิดและปิดเปลือก และช่วยให้หอยเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว
การกินและวิถีชีวิต
หอยกะพังเป็น “filtrator feeders” ที่เก่งกาจ ซึ่งหมายความว่าพวกมันจะกรองน้ำทะเลเพื่อหา thức ăn โดยใช้เหงือกพิเศษที่เรียกว่า “gills” ซึ่งมีขนเรียงตัวละเอียดdensely ทำหน้าที่ดักจับสิ่งเล็กๆ เช่น แพลงก์ตอน, แบคทีเรีย, อัลกา และอนุภาคอินทรียวัตถุอื่นๆ
กระบวนการกรองนี้ไม่เพียงแต่ทำให้หอยกะพังได้รับอาหารเท่านั้น แต่ยังช่วยในการ “purification” ของน้ำทะเลด้วย ซึ่งช่วยรักษาสมดุลนิเวศวิทยาของพื้นที่อาศัย
กลไกการว่ายน้ำ
นอกจากจะเป็นนักกรองน้ำที่เก่งกาจแล้ว หอยกะพังยังเป็นสัตว์ Bivalvia ที่มี “mobility” สูงอีกด้วย
หอยกะพังสามารถว่ายน้ำได้โดยใช้เปลือกของมันเป็น “jet propulsion” เมื่อกล้ามเนื้ออductor ย่อตัว, น้ำจะถูกฉีดออกจาก “siphons” (ท่อที่อยู่ด้านข้างเปลือก) ด้วยความแรง ทำให้หอยกะพังเคลื่อนที่ไปในทิศทางตรงกันข้าม
การว่ายน้ำของหอยกะพังถือเป็นหนึ่งในกลไกการ locomotion ที่น่าสนใจที่สุดในโลกสัตว์ เพราะสามารถทำให้หอยกะพังหลบหนีจากผู้ล่าอย่างฉลาด
วงจรชีวิต
หอยกะพังมี “cycle of life” ที่ค่อนข้างซับซ้อน
โดยทั่วไปแล้ว หอยกะพังตัวเมียจะวางไข่จำนวนมากลงในน้ำ และตัวผู้จะปล่อยเซลล์สperm เพื่อให้เกิดการผสมพันธุ์ ไข่ที่ได้รับการผสมแล้วจะพัฒนาเป็น “larvae” ซึ่งเป็นรูปร่างเล็กและลอยไปตามกระแสน้ำ
larvae จะใช้เวลานานถึง 2-4 สัปดาห์ในการพัฒนาเป็นตัวอ่อน (juveniles) ก่อนที่จะจับยึดพื้นที่ และเติบโตขึ้นเป็นหอยกะพังขนาดเต็มวัย
ความสำคัญทางนิเวศวิทยาและเศรษฐกิจ
หอยกะพังมีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศของมหาสมุทร
การกรองน้ำทะเลของหอยกะพังช่วยในการควบคุมประชากรแพลงก์ตอน และทำหน้าที่เป็น “link” ที่สำคัญในห่วงโซ่อาหาร
นอกจากนี้ หอยกะพังยังเป็นสัตว์ที่นิยมบริโภคเนื่องจากเนื้อของมันมีรสชาติอร่อยและอุดมไปด้วยโปรตีน การเพาะเลี้ยงหอยกะพังเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมประมงที่มีความสำคัญในหลายๆ ประเทศ
การอนุรักษ์
เนื่องจากความนิยมบริโภคเนื้อหอยกะพัง จึงมีแนวโน้มที่ประชากรของหอยกะพังจะลดลง การทำ “overfishing” และการทำลายถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติ
เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้จำนวนประชากรหอยกะพังลดลง
การอนุรักษ์หอยกะพังจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
วิธีการอนุรักษ์
- การควบคุมการทำประมง:
จำกัดจำนวนและขนาดของหอยกะพังที่สามารถจับได้
- การสร้างเขตสงวน:
ปกป้องพื้นที่ที่เป็นถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติของหอยกะพัง
- การเพาะเลี้ยง:
ช่วยเพิ่มจำนวนประชากรหอยกะพังในเชิงพาณิชย์
สายพันธุ์ | ที่อยู่อาศัย | ขนาด | สีสัน |
---|---|---|---|
Bay scallop (Argopecten irradians) | บริเวณชายฝั่งตะวันออกของอเมริกาเหนือ | 4-6 นิ้ว | เทา, น้ำเงิน, ชมพู |
Sea scallop (Placopecten magellanicus) | อ่าวเมนและบริเวณชายฝั่งแคนาดา | 8-10 นิ้ว | ส้ม, เหลือง, ชมพู |
Japanese scallop (Patinopecten yessoensis) | มหาสมุทรแปซิฟิก | 6-8 นิ้ว | ส้ม, สีแดง, ชมพู |
หอยกะพังเป็นสัตว์ที่น่าสนใจและมีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศของเรา
การอนุรักษ์ประชากรของพวกมันเป็นสิ่งจำเป็น
เพื่อให้เรายังคงได้รับประโยชน์จากสัตว์เหล่านี้ต่อไป